ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ นพ.พรเทพ บรรยายว่า กล้วยมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า จะมีแคลเซียมสูงมาก เมื่อรับประทานเข้าไปจะทำให้ช่องปากมีสภาพเป็นด่าง
ช่วยป้องกันฟันผุได้ การกินกล้วยน้ำว้า ควรกินตอนห่ามๆ อย่าให้สุกมากไป เพราะจะมีความหวานมากเกินไป
กล้วยน้ำว้ามีวิตามินซี แคลเซียมสูงมาก กินวันละ 4 ลูก จะได้แคลเซียมพอดี รวมทั้งโปแตสเซียม มีโปรตีนครบเหมือนนมแม่ มีฮิสโตแฟน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของการหลั่งเอ็นโดรฟิน เมื่อกินกล้วยแล้วจึงทำให้มีความสุข หลับสบาย กินแล้วฟันไม่ผุ เพราะมีสารเพคติน ซึ่งมีฤทธิ์ฝาดสมาน จะเคลือบตั้งแต่ในปาก ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ถือเป็นยามหัศจรรย์ ใครท้องเสียให้กินดิบ ห่ามก็ได้ จะหยุดท้องเสียที่ไม่รุนแรงได้”
แต่วันนี้ผมอยากพูดเรื่องการบำรุงเลือดจากการใช้กล้วยน้ำว้าสุก!!
กล้วยน้ำว้าสุกให้พลังงานสูง มีธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี ช่วยบำรุงกระดูกและเหงือก ช่วยให้ระบบขับถ่ายคล่องขึ้น นอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ในด้านความสวยความงาม กล้วยน้ำว้ายังช่วยให้ผิวพรรณมีสุขภาพดีขึ้น
กล้วยกับเลือดจาง?
กล้วยมีธาตุเหล็กกระตุ้นการสร้างฮีโมโกลบินช่วยแก้ปัญหาเลือดจาง และให้พลังงานกรณีที่ผู้ป่วยอ่อนแรง ประเทศอินเดียให้ผู้ป่วยกินกล้วยสุก 2 ผลในวันที่ 1 วันถัดมาให้ 3 ผล วันที่ 3 ให้ 4 ผล จนวันที่ 15 ให้ 16 ผล จากนั้นลดจำนวนกล้วยลงวันละ 2 ผล จนเหลือกินวันละ 2 ผล อาการจะหมดไป!!
ใครเป็นโลหิตจางอยู่ ลองดูไม่เสียหายครับ แต่วันที่ 15 ทานตั้ง 16 ผลคงจะอิ่มแย่
และใครโลหิตจางหมอแนะนำยาประสะจันทร์แดงเพื่อบำรุงโลหิตครับ ทาน 3 เดือนตรวจเลือดดูครับ
คลิป
ที่มา : share-si.com
แพทย์แนะกินกล้วยน้ำว้า อึไม่เหม็น และเลือกกล้วยแบบไหนลดความอ้วนได้