สุดช็อค อึ้งกันทั่วโลก!! 10 สถานที่น่ากลัวที่สุดในโลก บอกเลยแต่ละที่ ไม่มีคนกล้าเข้าไปแน่!!

วันนี้แอดมิน จะพามาชมสถานที่ที่มีบรรยากาศสุดหลอนและน่ากลัวที่สุดกันครับ นั่นจึงทำให้การจัดอันดับสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลกจากเว็บไซต์หลาย ๆ เจ้าบนอินเทอร์เน็ตนั้น ประกอบด้วยสถานที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจาก แต่ละคนก็มี ความกลัวที่แตกต่างกันออกไป วันนี้แอดมินจะขอนำสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก ซึ่งเป็นสถาณที่ๆที่เว็บไซต์เทเลกราฟของอังกฤษ จัดขึ้นกันครับ ขอบคุณข้อมูลจาก Kapook ด้วยครับ


10.หมู่บ้านพลัคลีย์ อังกฤษ หมู่บ้านนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เฮี้ยนที่สุดในอังกฤษ โดยได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากกินเนสส์บุ๊ก เมื่อปี ค.ศ. 1989 หลังจากที่มีรายงานการพบวิญญาณ 12-16 ดวง ในหมู่บ้านนี้ โดยหนึ่งในวิญญาณที่มีผู้พบเห็นมากที่สุด คือ วิญญาณผู้ชายที่เฝ้ากรีดร้องวนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน ชาวบ้านพากันเชื่อว่าในสมัยก่อนเขาประกอบอาชีพทำงานก่อสร้างบ้านแต่พลัดตกลงมาจากที่สูงทำให้เสียชีวิต และอีกดวงหนึ่งคือวิญญาณผู้ชายที่ถูกฆ่าตายด้วยการอาวุธดาบผ่านร่างตรึงไว้กับต้นไม้ ซึ่งแม้ว่าต้นไม้จะถูกตัดไปนานมากแล้วก็ตาม แต่ปัจจุบันผู้ที่ผ่านไปพื้นที่ดังกล่าวก็จะได้พบเห็นภาพฉากหนึ่งคือการต่อสู้และฆ่ากันตายฉายซ้ำบนพื้นที่เดิมครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากนี้ยังมีการพบเห็นผีครูใหญ่ที่เคยผูกคอตายบริเวณนั้น เดินวนเวียนอยู่ในหมู่บ้านอยู่หลายครั้งมากๆ


9. เกาะตุ๊กตา เม็กซิโก เกาะแห่งนี้มีเรื่องเล่าว่า เคยเป็นเกิดเหตุที่เสียชีวิตของเด็กหญิงรายหนึ่ง เธอจมน้ำตายขณะวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ ต่อมาในปี ค.ศ. 1950 ชายคนหนึ่งนามว่า ดอน จูเลียน ซันทานา บาร์เรรา ได้ใช้เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้เป็นบ้าน แต่หลังจากนั้นเขาก็พบว่าเขาได้ยินเสียงเด็กหญิงอยู่ทุกคืน ทั้งเรียกเขาจากในน้ำ ทั้งร้องเพลง เขากลัวมากจึงเริ่มนำตุ๊กตามาไว้บนเกาะ โดยแขวนมันไว้ตามต้นไม้ทุกต้น และทุกซอกทุกมุมในบริเวณของเกาะ เพราะเขามีความเชื่อว่ามันคงจะช่วยทำให้วิญญาณของหนูน้อยไม่เหงาและสงบลงนั้นเอง จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2001 ดอน จูเลียน ก็เสียชีวิตลง จากการบอกกล่าวพบว่า พบศพของเขาคว่ำหน้าจมน้ำอยู่ในจุดเดียวกับที่เด็กหญิงจมน้ำ หลังจากนั้นมา ก็มีคนในพื้นที่เปิดเผยว่าพบตุ๊กตาบนเกาะแห่งนี้หันศีรษะได้ ลืมตาเองได้ และใครที่ริอาจจะไปลองของต้องระวังอย่าได้คิดนำตุ๊กตาบนเกาะติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างเด็ดขาดเลยครับ


8.เกาะฮาชิมะ  จังหวัดนางาซากิของญี่ปุ่น เกาะแห่งนี้ไม่มีเรื่องเล่าอะไรมากไปกว่าเป็นแค่เหมืองถ่านหินเก่าและสถานที่คุมขังนักโทษสงครามสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างไว้นานนับ 40 ปีแล้วครับ แต่แม้จะพบว่ามีประวัติความเป็นมายาวนานว่าเคยมีคนตายอยู่บนเกาะนี้นับพันนับหมื่นชีวิต แต่หากดูจากสภาพความรกร้างบนเกาะ ตึกเก่าที่สุดแสนจะทรุดโทรมแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากจะไป ที่นั้นแน่ๆ ส่วนเรื่องความเฮี้ยนดูเหมือน มีเมื่อครั้งกองถ่ายภาพยนตร์ Battle Royale ภาพยนต์ดังจากญี่ปุ่นได้เจอกับบุคคลปริศนาที่ไม่ใช่ทีมงานโผล่เข้ามาติดในฉาก ขณะถ่ายทำ และที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นคือนักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่นในเรื่อง มีการพบว่าถูกผีสิงจนต้องหยุดพักการถ่ายทำไปนานเลยครับ


7.หอคอยลอนดอน แห่งอังกฤษ เป็นสถานที่เก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 900 ปี ซึ่งตลอดช่วงเวลาที่ยาวนานนี้ หอคอยลอนดอนได้ถูกใช้เป็นทั้งป้อมปราการ พระราชวัง เรือนจำ และลานประหาร ต่างๆนานา ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีคนจำนวนมากเสียชีวิตอยู่ในที่แห่งนี้ และปัจจุบันมีความเชื่อกันว่าดวงวิญญาณบางดวงก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิมไม่จากไปไหน ทำให้มีเรื่องเล่าสุดหลอนออกมาบ่อยๆ โดยเฉพาะมีการพบเห็น แอนน์ โบลีน พระสนมในพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดหัว ปัจจุบันเธอยังคงวนเวียนอยู่ที่นี่ และปรากฏตัวให้ใครหลายคนเห็นในสภาพเดินถือหัวไปมา น่ากลัวมากครับ


6.ภูเขาแห่งกางเขน ในลิทัวเนีย ภูเขาแห่งกางเขน ในลิทัวเนีย มีความเชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ลึกลับสุดๆในเรื่องความเป็นมา ไม่มีใครรทราบได้ว่าคนสมัยก่อนปักไม้กางเขนไว้ทำไมมากมายเช่นนี้ แต่คาดเดากันว่าน่าจะเริ่มทำกันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1830 นานมากๆ จนปัจจุบันมีไม้กางเขนมากมายจนไม่ทราบจำนวนที่แน่นอนได้ คาดว่าน่าจะมีจำนวนไม้กาเขนราว 100,000 เป็นอย่างต่ำ และในช่วงเวลา 100 ปีที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นสถานที่แห่งการอธิษฐานต่างๆและก็ยังมีการปักไม้กางเขนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยนะ แม้ว่าจะเป็นสถาณที่แห่งการอธิษฐาน แต่ ก็เรียกว่าน่ากลัวสุดๆเลยละ


5. ป่าอาโอกิกาฮาระ เป็นผืนป่าพื้นที่ประมาณ35 ตารางกิโลเมตรที่ใกล้บริเวณอยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ ในประเทศญี่ปุ่น ถ้าผู้คนทั่วไปมอง ผ่านๆ จะเห็นว่าเป็นแค่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ผืนหนึ่ง แต่ใครเลยจะรู้ว่าป่าแห่งนี้มีผู้มาฆ่าตัวตายเฉลี่ยปีละประมาณ 100 คน ปรากฏการณ์ฆ่าตัวตายแปลกๆนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักเขียนเซโช มัตสึโมโต ได้เขียนนิยายเรื่อง คุโรอิ ไคจู ขึ้นมา และในนิยายมีการใช้ป่าแห่งนี้เป็นสถานที่ในละครที่ตัวละคร 2 ตัวมาฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นมาก็มีคนแห่มาฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้อยู่บ่อย ๆ  เลียนแบบพฤติกรรมจากนิยาย จนต้องมีการติดป้ายเตือนใจประเภท “ชีวิตมีค่า โปรดคิดอีกครั้ง” หรือ “คิดถึงครอบครัวก่อนจะทำอะไรลงไป” เลยทีเดียวครับ


4. สุสานใต้ดินในกรุงปารีส เป็นอุโมงค์ใต้ดินที่กลายเป็นที่เพื่อฝังศพของผู้คนมากกว่า 6 ล้านศพ หลังจากเมืองปารีสเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วเมื่อนับร้อยปีก่อน และทางรัฐบาลอยากจะให้มีพื้นที่สำหรับผู้คนอยู่อาศัยมากขึ้น จึงมีการย้ายสุสานมาใต้ดินไว้เก็บศพผู้คนเรื่อยมา ในที่สุดสุสานใต้ดินก็มีสภาพอย่างที่เห็น คือมีโครงกระดูกจำนวนมากเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ซึ่งแน่นอนว่า ความหลอนมีให้เห็นแน่ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นสุสานใต้ดิน แต่ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 สุสานแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้ผู้คนไปชมอย่างมากมาย ใครอยากไปชมประสบการณ์ลองไปชมดูได้ครับ


3.ปราสาทเอดินบะระ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่ากลัวและหลอนที่สุดในสกอตแลนด์ เคยมีคนพบเห็น วิญญาณต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณคนเป่าปี่ นักตีกลองไร้หัว ผีนักโทษฝรั่งเศส และผีนักโทษนายพลสมัยสงครามปฏิวัติอเมริกา หรือแม้แต่วิญญาณสุนัขที่วนเวียนอยู่บริเวณหลุมฝังซากของมันเอง นี่ยังไม่นับไม่รวมเงาดำมืดที่ระบุไม่ได้ว่าคืออะไรด้วย ขณะที่นักท่องเที่ยวอีกหลายคนพบเจอประสบการณ์ สยองๆ ต่างๆ


2.เมืองร้างพริเพียต ในยูเครน ได้รับการประกาศเป็นเมืองในปี ค.ศ. 1979 และมีประชาชน ที่อาศํยอยู่ราวๆ 49,360 คน แต่แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1986 โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลซึ่งอยู่ภายในเมืองพริเพียต ได้เกิดระเบิดขึ้นหลังการทดลองที่ผิดพลาด ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ เสียชีวิตหลายสิบราย และได้รับกัมมันตรังสีกว่า 200 คน อพยพออกจากเมืองอีกนับแสนในตอนนั้น ก่อนที่เมืองพริเพียตจะกลายเป็นเมืองร้างมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกลุ่มบริษัททัวร์บางบริษัท ได้จัดทัวร์พานักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมเมืองพริเพียตที่น่ากลัวแห่งนี้ โดยบรรยากาศของเมืองเต็มไปด้วยความเศร้าและหลอน ขณะที่เรื่องหลอน ๆ ของผู้คนที่พบเจอกับวิญญาณ ความน่ากลัวต่างๆ ก็มีอยู่ต่อเนื่อง


1.บ้านบอร์ลีย์ เป็นแมนชั่นสไตล์วิคตอเรียในมณฑลเอสเส็กซ์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านที่หลอนที่สุดในประเทศอังกฤษ สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1862 เพื่อให้เป็นที่พักสำหรับนักบวช แต่นับตั้งแต่สร้างเสร็จก็มีการพบเห็นวิญญาณอยู่เรื่อยมา และมีเรื่องเล่ามานานว่า มีนักบวชรายหนึ่งตกหลุมรักแม่ชีในโบสถ์ที่อยู่ใกล้ ๆ แต่โดนบาทหลวงกีดกัน จึงวางแผนที่จะหนีตามกันไป แต่ไม่สำเร็จ บาทหลวงจับได้ก่อน นักบวชรายนี้จึงผูกคอตายอยู่บริเวณบ้านบอร์ลีย์ ส่วนแม่ชีคู่รักนั้นนั้นถูกฝังทั้งเป็น จากนั้นมีคนพูดว่า ทั้งคู่เป็นผีหลอกหลอนคนที่เข้าไปบริเวณนี้อยู่เป็นประจำ น่ากลัวมากๆเลยครับ


 


ขอบคุณข้อมูลจาก kapook ที่มา onegossiper



สุดช็อค อึ้งกันทั่วโลก!! 10 สถานที่น่ากลัวที่สุดในโลก บอกเลยแต่ละที่ ไม่มีคนกล้าเข้าไปแน่!!
ใหม่กว่า เก่ากว่า