เรียกได้ว่าสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในโลกก็คือธรรมชาติที่เราไม่สามารถคาดการณ์เกี่ยวกับมันได้ทั้งหมด เพราะมันสามารถสร้างสิ่งที่น่าแปลกใจเสมอและเราไม่สามารถจินตนาการเกี่ยวกับมันได้เลย ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติสามารถเกิดได้ทั่วทุกมุมโลก และนี่คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจจนไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริงบนโลก !!!
1. ฟ้าผ่าคาตาตัมโบ เกิดขึ้นบริเวณปากแม่น้ำคาตาตัมโบ ตรงรอยต่อกับทะเลสาบมาราไคโบ ประเทศเวเนซูเอลา โดยพื้นที่บริเวณนี้จะมีพายุฟ้าแลบฟ้าผ่าปีละ 140 – 160 วันต่อปี วันละไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งแต่ละชั่วโมงจะมีฟ้าผ่ามากกว่า 280 ครั้ง ทำให้ ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งพายุฟ้าผ่าไม่มีวันจบสิ้น
2. ในช่วงระหว่างต้นเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนธันวาคมของทุก เหล่าปูแดงนับล้านบนเกาะคริสต์มาสจะรวมตัวเตรียมโยกย้ายถิ่น นัดพบเพื่อเลือกคู่และผสมพันธุ์ ก่อนที่จะหาที่เหมาะๆสำหรับการวางไข่ ซึ่งปูแดงเพียงตัวเดียวสามารถวางไข่ได้มากถึง 100,000 ฟอง หลังจากนั้นทั่วทั้งเกาะจะเต็มไปด้วยกองทัพปูแดง
3. ถ้าคุณเดินผ่านก้อนแปลกๆบนชายหาดคุณอาจจะคิดว่ามันเป็นหินที่ดูน่าสนใจ แต่แท้จริงแล้วมันคือสัตว์ทะเลที่พบนอกชายฝั่งชิลีกำลังซ่อนความลับที่น่าทึ่ง เพราะมันคือเพรียงหิน สิ่งมีชีวิตในทะเลที่มีรูปทรงดูแปลกไม่สวยงามเท่าไร แต่กลับเป็นแหล่งอาหารหลักสำหรับชีวิตในทะเลชิลี
4. ในปากีสถานน้ำท่วมที่เพิ่มขึ้นทำให้แมงมุมยากที่จะรักษารังไว้ที่ระดับพื้นดิน เมื่อน้ำเพิ่มขึ้นแมงมุมปีนขึ้นไปบนยอดของต้นไม้และห่อหุ้มต้นไม้ไว้ในกระจังเพื่อสร้างบ้านที่ปลอดภัยจากพายุ เป็นวิธีที่แยบยลสำหรับแมงมุมเหล่านี้เพื่อให้บ้านของพวกมันปลอดภัยแม้ว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายกับต้นไม้ก็ตาม
5. ภาพของชั้นที่สวยงามของเมฆเหนือภูเขานี้อาจดูเหมือนได้ผ่านการตัดต่อโดยโฟโต้ช็อปแต่แท้จริงแล้วมันคือรูปจริง ! ความจริงก็คือว่านี่คือการก่อตัวของเมฆที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อเมฆถูกกระทบจากกระแสลมแรงที่พัดออกมาจากภูเขา
6. คุณอาจสะดุดตากับสิ่งแปลกประหลาดนี้ในขณะที่เดินป่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่คุณเห็นเป็นเข็มที่ติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เรียกว่า pseudomonasas syringae ซึ่งมันคือแบคทีเรียทำให้น้ำแข็งมีลักษณะรูปทรงแปลกๆ
7. แสงเหนือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ของโลกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยเกิดจากการชนกันระหว่างก๊าซในชั้นบรรยากาศโลกกับอนุภาคไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ ก่อให้เกิดการระเบิดกลายเป็นลำแสงสีต่างๆกันออกไป ขึ้นอยู่กับแสงนั้นเกิดขึ้นในช่วงชั้นบรรยากาศไหน และเกิดจากก๊าซอะไร
8. ภาพเหล่านี้ถ่ายในเม็กซิโกดูเหมือนไม่มีอะไร จนกระทั่งคุณจะตระหนักได้ว่าพวกมันถูกถ่ายใต้น้ำ ! ความหนาแน่นดันลงสู่ก้นแม่น้ำก่อให้เกิดกระแสใต้น้ำหรือแม่น้ำเกิดขึ้นในน้ำอีกที
9. ชายหาดที่เห็นมีลักษณะคล้ายกับมีแสงไฟ LED เป็นลักษณะที่สวยงามราวกับดวงดาว เกิดขึ้นโดยแพลงตอนที่อาศัยอยู่ในน้ำ แสงจะถูกปล่อยออกมาเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเคลื่อนย้ายซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้การแสดงที่น่าทึ่งนี้บนชายหาด
10. หลุมอุกกาบาตก๊าซธรรมชาติแห่งนี้ในเติร์กเมนิสถานยังเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ประตูนรก” (Gate to Hell) เปลวไฟถูกค้นพบภายในหลุมอุกกาบาตครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2514 ดูเหมือนหลุมไฟที่กำลังปะทุขึ้นแสดงให้เห็นว่าความรุนแรงของไฟใต้หลุมนี้เป็นอย่างไร
11. เมื่อภูเขาไฟปะทุขึ้นผู้คนคาดหวังว่าจะได้เห็นควันหมอกและการไหลของแมกม่าที่เป็นของเหลวร้อน แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นพายุไฟฟ้ากำลังโหมกระหน่ำปะทุขึ้น เห็นได้ชัดว่าเมื่อภูเขาไฟให้พลังงานมากเกินไปอาจทำให้เกิดพายุเช่นนี้ได้
12. ในหุบเขามรณะวัลเลย์ แคลิฟอร์เนีย หินยักษ์เหล่านี้ลื่นไหลผ่านทรายแม้ว่าจะไม่มีใครสัมผัสพวกมัน เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น สาเหตุเกิดจากทะเลทรายเย็นจนในเวลากลางคืนทำให้เป็นชั้นของน้ำค้างแข็ง นี่คือสิ่งที่ทำให้หินลื่นและเลื่อนผ่านทรายด้วยตัวเอง
13. นี่เป็นต้นไม้จริงๆ ต้นไม้ชนิดนี้คือยูคาลิปตัสรุ้ง เติบโตขึ้นในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย และเมื่อเปลือกของมันตาย ส่วนต่างๆจึงเกิดความแตกต่างกัน โดยเปลือกไม้จะเปลี่ยนสีที่แตกต่างกันสร้างผลที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้
14. ภูเขาไฟบนเกาะชวาของอินโดนีเซียอาจดูเหมือนลาวาเป็นสีน้ำเงิน เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างกำมะถันของภูเขาไฟกับออกซิเจน เนื่องจากมันจะเผาผลาญแมกม่าได้ทันที ดังนั้นคุณจะเห็นมันไม่ได้เป็นสีฟ้าที่ทั้งหมด มันครอบคลุมเพียงในเปลวไฟ
15. ปริมาณเกลือของทะเลสาบในประเทศออสเตรเลียนี้สูงมากจนเมื่อสัตว์นั่งอยู่ใกล้ๆได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะนกเป็นเหยื่อที่พบบ่อยที่สุดของทะเลสาบ มันเป็นเรื่องน่าสยดสยองและน่าขนลุกเมื่อเห็นนกที่ดูเหมือนกำลังถูกแช่แข็งอยู่ในทะเลสาบ แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะปฏิเสธความงามที่ดูน่าเศร้าของสิ่งที่เกิดขึ้นได้
ที่มา helen
15 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่แปลกประหลาดจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีจริง!!