หลายคนที่เคยขับรถ คงเคยเจอปัญหาเหล่านี้กันมาบ้าง สำหรับปัญหาของน้ำมันรถที่ใกล้จะหมดแต่กลับไม่มีปั๊มให้เติม ถ้าเราอยู่บนถนนในเมืองคงไม่ค่อยหวั่นใจเท่าไหร่ เพราะถ้าขับไปเรื่อยๆก็มีโอกาสที่จะเจอปั๊มน้ำมันได้ แต่หากอยู่ในถิ่นทุระกันดาร คงลำบากไม่น้อย เพราะกว่าจะเจอปั๊มน้ำมัน ก็ไม่ต่างกับงมเข็มในมหาสมุทร การเซฟน้ำมันให้ได้มากที่สุด จึงเป็นสิ่งสำคัญ
หากใครที่อ่านคู่มือรถยนต์โดยละเอียด จะทราบว่า เมื่อสเกลน้ำมันมีไฟกระพริบแล้วรถจะสามารถวิ่งต่อไปได้อีกกี่กิโลเมตร โดยส่วนใหญ่คู่มือจะแจ้งไว้ที่ 20 กิโลเมตร แต่เคยมีผู้ใช้รถทดสอบแล้ว ว่าแท้จริงมันสามารถวิ่งไปได้อีก 50-90 กิโลเมตรเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างไรแล้ว เราก็ควรรู้วิธีปฏิบัติ หากเกิดเหตุการณ์น้ำมันใกล้จะหมดแต่ในระยะใกล้ๆไม่มีปั๊มน้ำมัน ควรทำอย่างไร ไปดูกันเลย
1. อย่าเหยียบเบรค อย่าลดความเร็ว เมื่อไฟน้ำมันกระพริบ อย่ารีบเหยียบเบรคหรือลดความเร็ว เพราะจะทำให้กินน้ำมัน
2. ควบคุมความเร็วรถ ขับรถด้วยความเร็วสม่ำเสมอ ซึ่งจากการทดลอง สำหรับรถกินน้ำมัน 1.3-1.8 ลิตร ความเร็วที่กินน้ำมันน้อยที่สุดคือ 45-65 กม./ชั่วโมง สำหรับรถกินน้ำมัน 2.0-3.0 ลิตร ความเร็วที่กินน้ำมันน้อยที่สุดคือ 55-75 กม./ชั่วโมง หากยิ่งขับเร็วก็ยิ่งกินน้ำมัน แต่หากอยู่บนทางด่วนก็ควรหาความเร็วที่ปลอดภัยด้วย
3. ปิดอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้า GPS แอร์ เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้จะเพิ่มภาระให้รถ ทำให้เผาผลาญน้ำมันเร็วขึ้นอีก
4. ปิดหน้าต่างรถเวลาขับรถบนทางด่วน เพื่อลดการต้านลมอันจะทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนัก แต่อาจจะเปิดช่องเล็กๆไว้เพื่อหายใจเนื่องจากต้องปิดแอร์ด้วย
5. ขับอย่างระมัดระวัง ดูสภาพถนนดีๆเลือกถนนที่เรียบ เพราะถนนขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อจะยิ่งทำให้รถคุณกินน้ำมันเยอะขึ้น
6. หลีกเลี่ยงถนนที่รถติดน้ำมันใกล้จะหมด ถ้าขับๆจอดๆจะยิ่งหมดเร็ว เช็คทางให้ดีแล้วอย่าหลงนะจ๊ะ
น้ำมันใกล้จะหมด ถ้าขับๆจอดๆจะยิ่งหมดเร็ว เช็คทางให้ดีแล้วอย่าหลงนะจ๊ะคนใช้รถหลายๆคนมีนิสัยชอบเติมน้ำมันเวลาไฟกระพริบ แต่จริงๆแล้วการทำอย่างนี้ไม่ดีต่อสภาพรถ! ถ้าน้ำมันในถังน้อย อาจส่งทำให้ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง( fuel pump) หรือปั๊มติ๊กมีอายุการใช้งานสั้นลง เสื่อมสภาพเร็วระบบการทำงานของปั๊มติ๊กจะใช้น้ำมันช่วยระบายความร้อน มันจะติดอยู่ในถังน้ำมัน และใช้น้ำมันช่วยในการลดอุณหภูมิ ถ้าไฟสเกลน้ำมันกระพริบ ระดับน้ำมันจะเริ่มคลุมปั๊มติ๊กไม่มิด เมื่อมันทำงานแล้วระบายความร้อนออกมา ก็จะไม่มีประสิทธิภาพ เป็นเหตุให้มันเกิดการเผาไหม้ตัวเอง รถไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ
เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเติมน้ำมันก็คือเมื่อสเกลน้ำมันบอกว่ายังมีน้ำมันในระดับนึง อีกอย่างในฤดูร้อนอย่าเติมน้ำมันเต็มถัง เนื่องจากหน้าร้อนอุณหภูมิสูง จะทำให้ความดันในถังน้ำมันสูงเกินไปแม้ว่ามันจะมีกลยุทธ์ แต่ก็ยังขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะหน้า ดังนั้นขอแนะนำว่าถ้าต้องขับรถในระยะไกล เติมน้ำมันให้เต็มถังไว้ดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์หาปั๊มน้ำมันไม่เจอ หรือเจอแล้วแต่มันปิดซ่อม ก็จะแย่เอานะจ๊ะ
นี่เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่ทางที่ดีคือไม่ควรปล่อยให้สเกลน้ำมันแจ้งเตือน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเติมน้ำมันคือ เหลือสเกลอีก 1 ระดับ หรือ 1 ขีดก็ควรเติมได้แล้วค่ะ
ที่มา kaijeaw
รู้ไว้ไม่เสียหาย !! คนมีรถควรรู้!! เมื่อน้ำมันจะหมดแต่ “ไม่มีปั๊ม” ควรทำอย่างไร จำไว้เผื่อมันเกิดขึ้น