คู่สามีภรรยาที่ตัดสินใจแต่งงานกันด้วยความรัก ถือว่าการมีลูกเป็นความฝันที่เกือบทุกคู่ต้องการ เพราะเหล่าเจ้าตัวน้อยที่เข้ามาสร้างบรรยากาศใหม่ ๆ ให้ชีวิตคู่ดูมีสีสันและเป็นการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ที่ตัวเองจะได้ทำหน้าที่พ่อและแม่อย่างสมบูรณ์แบบสักครั้งในชีวิต หลายคนบอกว่า มีลูกไว้เพื่อเลี้ยงดูเรายามแก่เฒ่า แต่ในยุคปัจจุบันนี้เรื่องดังกล่าวอาจไม่ใช่อย่างที่เราคิด บางครั้งก็ต้องดูเป็นรายคนไปว่ามีความกตัญญูมากแค่ไหน อย่างกรณีของ 2 ตายายคู่นี้ที่ใครเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้จริงๆ
ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ คู่สามีภรรยาวัยชราต้องกางเต้นท์นอนหน้าบ้านของลูกชายตัวเอง ที่อยู่ในเขตหนานเกอจวง เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน ถึงแม้ว่าจะเพิ่งผ่านพ้นช่วงฤดูหนาว แต่ก็อุณหภูมิก็ยังถือว่าค่อนข้างหนาวสำหรับคนแก่อายุ 80 กว่าปีอยู่ดี
คนที่เดินทางไปมาก็อดสงสัยไม่ได้เลยว่าเพราะเหตุใดสองตายายจึงต้องออกมาอยู่นอกบ้านด้วย ซึ่งเราก็ได้รู้มาว่า ตายายทั้งสองคนใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว โดยคุณตามีชื่อว่า “เฉินเฟิงหยวน” ประกอบอาชีพช่างไม้มาก่อน คุณตามีลูกทั้งหมด 5 คน ทั้งสองคนช่วยกันทำมาหากิน เลี้ยงดูลูกจนเติบโตและมีครอบครัวกันหมดแล้ว
คุณตาพูดอย่างน้อยใจว่า “ถ้ารู้ว่าลูกหลานพึ่งพาไม่ได้ สู้ไม่มีคงจะดีกว่า” ก่อนหน้านี้คุณตามีเงินเก็บสะสมจากการทำงาน จึงไม่ได้ขอเงินจากลูก ๆ จนกระทั่งเริ่มทำงานไม่ไหว และเงินก็เริ่มหมดไป จึงต้องขอพึ่งพาจากลูก คุณตาต้องย้ายไปมาระหว่างบ้านของลูก ซึ่งตอนแรกก็คุยกันแล้วว่าจะอยู่บ้านลูกแต่ละคนครั้งละ 2-3 เดือน แต่ไม่กี่ปีก่อน ลูกสาวคนโตได้หย่ากับสามี ทำให้ไม่มีเงิน เธอเองก็ไม่มีบ้านอยู่เช่นกัน ส่งผลให้คุณตาต้องอยู่บ้านลูกคนอื่นนานขึ้น ทำให้ลูก ๆ เริ่มทะเลาะกัน ต่างคนต่างเกี่ยงกัน โดยเฉพาะลูกสาวที่ไม่ยอมให้พ่อแม่อยู่บ้านตัวเองเกิน 2 เดือน คุณตาเองก็สุขภาพร่างกายไม่ค่อยดีนัก ยังมีค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลอีก เมื่อลูกทะเลาะกันเอง ค่าหาหมอค่ายาก็แบ่งกันรับผิดชอบไม่ได้
คุณตาเสียใจมากที่ลูกชายคนแต่ละคนไม่ยอมให้เข้าบ้านและลูกสาวก็ยังไล่ให้มาอยู่บ้านพี่ชาย ด้วยความที่คุณตาเป็นคนหัวแข็ง จึงไม่ได้เอ่ยปากขอร้องลูก ๆ แต่ตัดสินใจกางเต้นท์นอนที่หน้าบ้านแทน คุณตาพูดอย่างน้อยใจว่า “ในเมื่อลูก ๆ ไม่ให้ที่อยู่ ถ้าอย่างนั้นก็ขอนอนรอความตายที่นี่ละกัน”
ในทุกๆวัน คุณตากินนอนอยู่หลังบ้านลูกชายคนโต โดยมีเพื่อนบ้านและลูกชายคนโตคอยทำอาหารมาแบ่งให้ทุกวัน ตลอดระยะเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมา คุณตาไม่เคยโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากลูก ๆ คนอื่นเลยสักครั้ง ลูกชายคนโตก็ไม่เปิดประตูให้คุณตาเข้าบ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว ลูกชายคนโตก็ขอร้องให้พ่อแม่ไปพักบ้านน้องคนอื่นหลายครั้ง แต่พ่อแม่ยังคงดื้อรั้นขอพักอยู่ในเต้นท์อย่างเดิม ลูกชายมักเปิดประตูออกมาดูพ่อแม่อยู่บ่อย ๆ เมื่อเห็นว่ายังสบายดีจึงปิดประตูและเดินกลับเข้าไป จนกระทั่งผ่านไปเกือบ 1 เดือน น้อง ๆ จึงเริ่มรู้ข่าวบ้างแล้ว แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าใครจะรับพ่อแม่ไปดูแลดี จนถึงวันที่ 20 ลูกสาวคนโตก็นั่งแท็กซี่มารับพ่อแม่ไป
ลูกชายคนโตจึงถามด้วยความประหลาดใจว่า “ทำไมถึงมา ?” เธอตอบว่า “มีคนโทรศัพท์หาฉัน พอรู้ก็รีบมาเลย ปล่อยให้พ่อแม่นอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ? ไม่รู้จักบุญคุณพ่อแม่บ้างเลย !” ทันใดนั้นคุณตาก็ร้องไห้และขึ้นรถแท็กซี่ไปโดยที่ไม่ได้นำสิ่งของจากในเต้นท์กลับไปด้วยเลยสักชิ้น ที่แท้ชาวบ้านพูดกันจนเรื่องไปถึงนักข่าว ทำให้ลูกสาวกลับมารับคุณตาไป
ทำให้รู้เลยว่า ถ้าเรื่องนี้ยังไม่รู้ถึงหูสื่อ คุณตาคงยังต้องนอนหนาวอยู่อย่างนั้นและไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ด้วย ลูกที่ทอดทิ้งพ่อแม่ตอนแก่เฒ่านี่บาปมากๆเลยนะ ทุกคนลองนึกถึงวันที่ท่านเลี้ยงดูมาจนโตสิ ท่านต้องเหนื่อยขนาดไหนที่เลี้ยงเรามาได้จนถึงทุกวันนี้
ที่มา tsood
ทำกันได้ลงคอ!! ลูกชายไม่ยอมให้ “พ่อแม่วัย 80” ไปอยู่ด้วย ต้องกางเต้นท์-ปูเสื่อนอนหน้าบ้าน พอเห็น “ลูกสาว” รับไปอยู่ด้วยเท่านั้น! ถึงกับน้ำตาแตก แถมความจริงบางอย่างเปิดเผย!!