คนเราเลือกเกิดไม่ได้!! เผยชีวิตอดีตดาราเด็ก “น้องไทเกอร์” ไม่อายทำกิน ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง จนสอบติดวิศวจุฬาฯ แต่กลับไม่มีเงินเรียน!!

เป็นเรื่องที่น่าสมควรได้รับการช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 24 เม.ย. มีผู้แชร์เรื่องราวขีวิตเกี่ยวกับ น้องไทเกอร์ นายธนากร พิศนุภูมิ อดีตดาราเด็กจากละครเรื่องฝนเหนือ ทางช่อง 7 และเคยแสดงหนังเรื่อง ผีเลี้ยงลูกคน ที่มี อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ เป็นนักแสดงนำ โดยผู้ใช้อินสตาแกรมที่ใช้ชื่อว่าว่า  marteenpry (ม้าตีนปลาย) โพสต์ภาพบอกเล่าชีวิตประจำวันในปัจจุบันที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ต้องทำงานพิเศษเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัว บางวันต้องกินข้าวเพียงมื้อเดียวเพื่อนำเงินไปจ่ายเป็นค่าเช่าที่พัก และล่าสุดสามารถสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ ในขณะที่อายุเพียง 16 ปี


ต่อมีได้มีผู้สื่อข่าวติดต่อไปที่ น้องไทเกอร์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงทราบว่า ตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากจริงๆ ต้องอาศัยอยู่กับแม่ 2 คน ประกอบกับแม่ก็มีรายได้ไม่แน่นอน ทำให้ตนต้องหางานพิเศษทำในช่วงปิดเทอม ส่วนที่เขียนอินสตราแกรมนั้น เพื่ออยากถ่ายทอดเรื่องราวให้ผู้ที่ติดตามได้กำลังใจในการใช้ชีวิต นอกจากนี้บางส่วนก็เหมือนกับตัดพ้อชีวิต เพราะว่าท้อแท้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมทำงานมาเยอะตั้งแต่เด็ก แต่ยังไม่เห็นแสงสว่างในชีวิตเลยว่าชีวิตจะเป็นทางไหน จะไปยังไงต่อ แต่เมื่อกลับมาคิดอีกทีก็ยอมรับกับความลำบาก และต้องต่อสู้กับมันต่อไป ที่สำคัญจะใช้ชีวิตเกินตัวไม่ได้ แค่เอาชีวิตให้รอดในแต่ละวันผมก็พอใจแล้ว


“ตนเริ่มต้นเข้าเรียนสาธิตจุฬา ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ซึ่งทางโรงเรียนหาทุนให้เรียนมาโดยตลอด โดยผมมีผลการเรียนที่ดี เคยไปสอบโอลิมปิกคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โดยที่ผ่านมา ผมเคยออกรายการสรยุทธ และได้เงินช่วยเหลือมาก้อนหนึ่ง แต่ก็หมดไปแล้ว จากการไปสอบโอลิมปิก โดยที่ผ่านมาก็พยายามทำงานหารายได้เล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว และตอนนี้ ทำงานพิเศษที่เซสเตอร์กริล โดยหวังว่า จะนำเงินไปใช้เรียนหนังสือ แต่ก็คิดว่ายังไม่พอเพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และเงินที่ได้มาพอใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น”




น้องไทเกอร์ บอกอีกว่า ในส่วนเรื่องเรียนที่สอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้นั้น ตอนนี้สอบสัมภาษณ์ผ่านแล้ว แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะหาเงินค่าเทอมจากไหนมาจ่าย อีกทั้งยังไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรในขณะที่เรียน เพราะถ้าจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยร่างกายคงไม่ไหวแน่ๆ กลัวว่าจะถูกไล่ออกก่อนจะเรียนจบ จึงหวังว่าจะมีผู้ใหญ่ที่เมตตาเข้ามาช่วยเหลือ และถ้าจะช่วยก็อยากให้ช่วยให้ได้ทำงานที่ตรงกับความรู้ และทักษะทางวิชาการที่ผมมี ทั้งคณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ ไม่ได้อยากให้ช่วยเปล่า เพื่อพัฒนาความรู้ที่ผมมี ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคต


“ที่ออกมาก็แล้วแต่ว่าใครจะเมตตา ตอนนี้ตนยังไม่ได้ไปคุยกับทางมหาวิทยาลัยเรื่องการขอทุน เพราะที่ผ่านมา แม่ตนเคยมีหนี้สินโดยยึดทรัพย์ไปจนหมดผมก็กลัวเรื่องหนี้สินมาก ตอนนี้ทำทุกวันให้ดีที่สุด พยายามทำให้เต็มที่ ยังไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง ตอนนี้ แม่ก็พยายามหาเงินให้อีกทาง ซึ่งผมไม่ได้อยากได้เงินฟรีๆ อยากทำงานที่ได้เงินแลกมา”







กราบขอบพระคุณทุกๆท่านที่เมตตาช่วยเหลือผมจากใจจริงนะครับ เงินที่แต่ละท่านเมตตาให้ผมทุกบาทล้วนมีคุณค่ามากสำหรับผมทั้งสิ้น กราบขอบพระคุณอีกครั้งที่ท่านเมตตาต่อ"อนาคต"ให้ผม อย่างไรก็ตามผมก็ยังคงทำงานที่เชสเตอร์กริลต่อไป เพราะผมถือว่าเงินที่ท่านเมตตาให้ผมมานั้น ผมจะใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ(คือรายได้ของผมไม่พอจ่ายและเป็นเรื่องที่สำคัญต่ออนาคตของผม)และอีกเหตุผลหนึ่ง คือผมไม่อยากเป็นคนประเภท"ได้ใหม่แล้วลืมเก่า"หรืออะไรประเภทนั้น แต่หลังจากนี้ ผมจะทำงานเพลาๆลงบ้าง เพื่อไม่ให้ตัวเองล้มป่วยเป็นอะไรไปเพื่อที่จะได้มีชีวิตอยู่ตอบแทนหยาดเหงื่อความลำบากสู้ตรากตรำของพระคุณแม่ และผมขอให้สัญญาและสาบานกับทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ว่า เมื่อผมจบออกมา(จากความเมตตาของทุกท่าน และหยาดเหงื่อของคุณแม่ผม)ผมจะใช้ความสามารถทั้งหมดอุทิศตอบแทนสังคม และประเทศชาติมี่ทำให้ผมมีวัน "พรุ่งนี้"ได้ครับ ส่วนใครเข้าใจผมผิดหรือคิดกับผมในแง่ลบแง่ร้าย ผมให้อภัยครับ แต่ผมเชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนมีตา ท่านต้องหยั่งเห็นความจริงในตัวผม ผมเชื่อในความจริงอย่างนั้น! กราบขอบพระคุณทุกท่านครับ.


โพสต์ที่แชร์โดย ม้าตีนปลาย (@marteenpry) เมื่อ






ข้อมูลและภาพจาก KHAOSOD, IG @marteenpry


ที่มา thaijobsgov



คนเราเลือกเกิดไม่ได้!! เผยชีวิตอดีตดาราเด็ก “น้องไทเกอร์” ไม่อายทำกิน ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง จนสอบติดวิศวจุฬาฯ แต่กลับไม่มีเงินเรียน!!
ใหม่กว่า เก่ากว่า