ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ได้มีชายวัย 46 ปี รายหนึ่ง ย้อมทิ้งงาน และเดินทางไปยังที่ต่างๆเพื่อเก็บชิ้นส่วนอุกบาต เชื่อว่าจะนำความมั่งคั่ง ร่ำรวยมาให้กับครอบครัวเขา เขามักจะไม่กลับบ้าน และนั่นเป็นสาเหตุทำให้เขาต้องทะเลาะกับครอบครัว ต้องแยกกันอยู่กับภรรยา ที่บ้านของเขามีเศษชิ้นส่วนอุกกาบาตมากกว่า 40ชิ้น เมื่อไม่นานมานี้เขาได้เรียกผู้เชี่ยวชาญด้านแร่ธาตุวิทยา มาเพื่อช่วยทำการตรวจสอบ แต่ผลสุดท้ายทำให้เขาแทบเป็นบ้า เมื่อผลการตรวจออกมาพบว่า ชิ้นส่วนอุกกาบาตที่เขาเก็บมาทั้งหมดนั้น “ไม่ได้มีลักษณะโครงสร้างของอุกกาบาต” เลยแม้แต่ชิ้นเดียว หรือพูดง่ายก็คือ เป็นแค่ก้อนหินธรรมดาๆเท่านั้นเอง
ตามรายงานกล่าวว่า นายหวง เริ่มเก็บชิ้นส่วนอุกกาบาตมาตั้งแต่ 16ปีก่อน บางอันเก็บมาจากบนภูเขา บางอันก็มีคนนำมาขายให้เขา แต่ชิ้นที่เขาดูจะภูมิใจมากที่สุดก็คือ ก้อนนี้ ที่มีน้ำหนักมากถึง 150กว่ากิโลกรัม ซื้อมาในราคา1.2 หมื่นหยวน (ประมาณ 6หมื่นบาทไทย) เขากล่าวว่า อุกกาบาต มีราคาสูงมาก ปัจจุบันคิดราคาเป็นกรัม ตกอยู่ที่กรัมละ 100 หยวน (ประมาณ 500 บาท ) นั่นทำให้ผมไม่คิดลังเลที่จะซื้อมันมา
▼ผู้เชี่ยวชาญด้านแร่ธาตุวิทยาได้ทำการตรวจสอบ และพบว่าไม่พบว่ามีลักษณะโครงสร้างของอุกกาบาตเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
เพื่อตามหาชิ้นส่วนอุกกาบาต นายหวง ต้องออกจากบ้านไปไกล ขาดงาน จนถูกบริษัทไล่ออก และแถมยังนำเงินทั้งหมดที่มีไปซื้อก้อนหินที่เขาคิดว่าเป็นชิ้นส่วนอุกกาบาตจนหมด ทำให้ครอบครัวต้องตกที่นั่งลำบาก สุดท้ายภรรยาขอแยกกันอยู่และพาลูกไปอยู่ด้วย ภรรยาของนายหวงกล่าวว่า สามีเปลี่ยนไป กลายเป็นคนไม่ฟังอะไร ยึดในอุดมการณ์ของตัวเอง จนทำลายชีวิตครอบครัวที่สมบูณ์แบบ ตอนนั้นลูกก็เพิ่งอายุได้เพียง 10 ขวบ ต้องการความรักความอบอุ่นจากครอบครัว แต่เขากลับเอาแต่ออกไปหาชิ้นส่วนอุกกาบาต ไม่ยอมกลับบ้าน แถมยังกลับมาตัวเปล่า ไม่มีเงินกลับมาเลยสักครั้ง
เมื่อไม่นานมานี้ นายหวง ได้เข้าพบ นายเฉิน ผู้เชี่ยวชาญด้านแร่ธาตุวิทยา ประจำพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยเฉิงตู เพื่อทำการประเมินค่า และหยิบก้อนอุกกาบาตออกมาอย่างภาคภูมิใจ บอกว่า “อุกกาบาตของผมก้อนนี้ใหญ่กว่าที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของพวกคุณเป็นไหนๆ”
นายเฉินจึงรีบเข้าตรวจสอบ ทันทีว่าเป็นชิ้นส่วนอุกกาบาตตามที่นายหวงอ้างไว้หรือไม่ และจากการตรวจกว่า 40ชิ้น พบว่าไม่มีชิ้นไหนเลยที่พบว่ามีลักษณะโครงสร้างของอุกกาบาต เมื่อผลการตรวจออกมา นายหวงแทบอยากจะเป็นลมล้มลงไป และพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดว่า ถ้าตอนนั้นผมไม่มัวแต่เอาเวลาทั้งหมดไปเก็บเศษอุกกาบาต ไม่เอาเงินที่ีทั้งหมดของครอบครัวไปซื้อ จนทำให้ชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นต้องพังลงด้วยน้ำมือของผม ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด “ถึงแม้ว่าจะเสียใจและรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป แต่เขาก็ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว 16ปีที่ผ่านมาก็ขอให้มันผ่านไป แต่ผมก็ยังยืนยันว่าจะเก็บก้อนหินต่อต่อไป ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ชิ้นส่วนอุกกาบาต ก็ไม่เป็นไร ”
▼นี่คือเศษชิ้นส่วนอุกกาบาตของจริงที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์
ที่มา liekr
ใช้เวลา16 ปี ตามเก็บชิ้นส่วนอุกกาบาต เรียกผู้เชี่ยวชาญมาประเมินราคา แทบช็อกเมื่อรู้ว่า…