ว้าว..!! 10 แลนด์มาร์คใน กทม. ที่สวยจนต่างชาติยอมรับ ชาวเน็ตปลื้ม…ความเป็นไทย!!

พามาเที่ยว กทม. ซึ่งเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหลเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่เชื่อ…ลองมองท้องฟ้าตอนกลางคืนก็ได้ จะเห็นเป็นสีสัมจากแสงไฟตลอดเวลา ต่างจากบ้านนอกที่มืดเมื่อไหร่ ท้องฟ้ามืดทันที เอ๊ะ!! เราพาออกนอกเรื่องทำไมนะ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าแลนด์มาร์คของ กทม. จะสวยแค่ไหน ไปชมกันเลย



1.เสาชิงช้า



แลนด์มาร์คสุด อะเมซซิ่ง เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีโล้ชิงช้า ซึ่งถือเป็นเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่หน้าวัดสุทัศน์เทพวราราม และลานคนเมืองหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ส่วนความสวยงามของเสาชิงช้า ก็ไม่ต้องพูดถึง ที่เพราะตกแต่งด้วยลวดลายไทยที่สวยงามมาก รวมถึงเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ จากการขึ้นทะเบียนของกรมศิลปากรอีกด้วย


2.ยักษ์วัดโพธิ์



ยักษ์ประจำวัดโพธิ์ มีหน้าที่ดูแลสถานที่สำคัญ ตามความเชื่อของคนโบราณ ที่ระบุว่า ยักษ์เหล่านี้มีอิทธิฤทธิ์ในการขับไล่ภูติ ผี ปีศาจ ซึ่งแต่ละตน จะยืนเฝ้าอยู่ที่ซุ้มประตูทางเข้า-ออก มีลักษณะเป็นรูปยักษ์ ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งนอกจากยักษ์วัดโพธิ์แล้ว ยังมีตำนานเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่าง ยักษ์วัดโพธิ์และยักษ์วัดแจ้ง ซึ่งเคยเป็นเพื่อนรักกัน แต่ผิดใจกันเพราะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ และเกิดต่อสู้กันอย่างรุนแรง จนต้นไม้ในแถบนั้นโล่งเตียน จนเป็นที่มาของชื่อ ท่าเตียน ในปัจจุบันนั่นเอง


3.อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย



อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถูกสร้างขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงการปกครองไทย หลังจาก  วันประวัติศาสตร์วันที่ 10 ธ.ค. ปี 2475 วันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 7 ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรสยาม ฉบับถาวร ไว้เป็นฉบับแรก เพื่อเป็นหลักในการปกครองของประเทศให้แก่ประชาชน หลังเปลี่ยนการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเดิม มาเป็นระบอบประชาธิปไตย อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยออกแบบโดยหม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล โดยแต่ละส่วน มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ และเล่าเรื่องราวทางการเมือง ทำให้ต่อมากลายเป็นสถานที่ชุมนุมทางการเมืองหลายยุคหลายสมัย


4.ตึกช้าง



ถ้าพูดถึงแลนด์มาร์คในกรุงเทพฯ สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือตึกช้าง ที่ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน และถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นตึกที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง โดยการจัดอันดับให้เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดเป็นอันดับ 4 จาก 20 ตึกทั่วโลก ทั้งยังใช้ช้างซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาเป็นแนวคิดหลัก สร้างสรรค์ขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง ศ.ดร.อรุณ ชัยเสรี และสถาปนิก นายองอาจ สาตรพันธุ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ด้านสถาปัตยกรรมร่วมสมัย เป็นอาคารสูง 32 ชั้น  ประกอบไปด้วย 3 อาคารหลัก ด้วยรูปร่างที่ดูแปลกตาและมีเอกลักษณ์ จึงเป็นตึกที่โด่งดังไปทั่วโลก


5.ภูเขาทอง



ชมตึกสวย ๆ ดันแล้ว มาทำบุญกันต่อที่ภูเขาทอง หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “บรมบรรพต” ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โบราณสถานสำคัญของกรุงเทพฯ อีกหนึ่งจุดห้ามพลาดในช่วงวันหยุด เพราะสามารถเดินทางมาทำบุญกันให้อิ่มใจได้ที่นี่ ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นในระหว่างเดินขึ้นภูเขา ทั้งยังเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามแห่งหนึ่ง มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัย ร.3 เดิมเป็นพระปรางค์ฐานสี่เหลี่ยมย่อไม้สิบสอง ต่อมาพังทรุดลง ต้องสร้างใหม่ในสมัย ร.4 แต่มีการปรับรูปทรงเป็นภูเขาและมีพระเจดีย์ด้านบนจวบจนปัจจุบัน รวมถึงยังมีงานประจำปีในช่วงวันลอยกระทง ที่เรียกกันติดปากว่า ‘งานภูเขาทองนั่นเอง’ ที่มีผู้คนหลั่งไหลไปเที่ยวในงานคับคั่งทุกปี


6.สะพานพระราม 8



เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมต่อกับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ซึ่งมีช่างภาพทั้งไทยและเทศเดินทางมาสร้างแลนด์มาร์คกันอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่มีแสงไฟประดับประดาสวยงาม เหมาะกับการถ่ายรูปอย่างมาก การก่อสร้างสะพานดังกล่าวขึ้นมาเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวง ร.9 ซึ่งมีพระราชดำริให้ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ เพื่อบรรเทาการจราจรบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าเมื่อปี 2538


7.สะพานช่องนนทรี




อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่มีความสวยงามอลังการ คือ สะพานช่องนนทรี ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นทางเดินลอยฟ้าเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีกับสถานีรถ BRT สาทร เมื่อปี 2553 นอกจากจะเดินทางแสนสะดวกแล้ว ยังมีความสวยงาม จากโครงเหล็กที่ออกแบบให้ดูแปลกตา คล้ายสะพานแขวน โอบล้อมด้วยตึกสูงมากมายรอบด้าน จึงเป็นสถานที่ที่สื่อถึงความเป็นมหานครได้อย่างดีเยี่ยม จนเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป และการถ่ายโฆษณาต่าง ๆ รวมไปถึงภาพ pre-wedding อีกด้วย


8.หอรัชมงคล สวนหลวง ร.9



สถาปัตยกรรมที่ดูโดดเด่น สง่างาม ด้วยยอดทรงแหลม ตั้งอยู่ในสวนหลวง ร.9 เป็นอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในศุภมงคลสมัยทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2530 ออกแบบโดยหม่อมหลวงตรีทศยุทธ เทวกุล รูปแบบเป็นอาคารทรง 9 เหลี่ยม  และใช้หลังคากระเบื้องเคลือบสีเหลืองอันเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ ภายในเป็นสถานที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ และเครื่องใช้ส่วนพระองค์


9.พระปรางค์วัดอรุณ



วัดอรุณราชวรารามหรือวัดแจ้ง หนึ่งในวัดคู่กรุงรัตนโกสินทร์ และวัดประจำรัชกาลที่ 2 สร้างตั้งแต่สมัยอยุธยา จึงมีความเก่าอย่างมาก โดยรัชกาลที่ 2 ทรงมีพระราชปรารภให้สร้างพระปรางค์วัดอรุณเพื่อเป็นศรีแก่พระนคร ซึ่งมีขนาดใหญ่ จนชาวบ้านให้เป็นจุดสนใจว่าหากเห็นพระปรางค์นี้เมื่อไร แสดงว่าพวกเขามาถึงเมืองกรุงแล้ว วัดอรุณเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกอันดับหนึ่ง  ชนิด “ราชวรมหาวิหาร”  จากจำนวนสี่วัดในกรุงเทพฯ พระปรางค์วัดอรุณ เป็นที่ร่ำลือว่ามีความสวยงามและมีรายละเอียดต่าง ๆ จากยอดสู่ฐาน ได้แก่ พระมหามงกุฏ นภศูล พระนารายณ์แบก และพญาครุฑแบกตามลำดับ


10.ตึกใบหยก 2



สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย เป็นจุดชมวิวที่สูง และสวยที่สุดในมหานครแห่งนี้ และมีร้านอาหารดัง ๆ ที่โดดเด่นเรื่องการนั่งชมวิวชิล ๆ ไปจนถึงการดินเนอร์หรูในโอกาสพิเศษ เพราะบรรยากาศดีแบบที่หาไม่ได้ง่าย ๆ รวมถึงวิวทิวทัศน์รอบ ๆ ซึ่งชมวิวได้แบบ 360 องศา ที่จะสวยเป็นพิเศษในยามค่ำคืน และยังมีนิทรรศการภาพถ่ายบรรยายเรื่องราวในสมัยรัตนโกสินทร์ รวมถึงงานศิลปะต่าง ๆ ให้ได้ชม นอกจากนี้ยังมีร้านค้าขายของที่ระลึก ให้ได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วยค่ะ




**ของแถม**


ตึกมหานคร สูงที่สุดใน กทม. และสวยที่สุดในประเทศไทย



.



.




ขอบคุณที่มาจาก: upyim , kwamsukz



ว้าว..!! 10 แลนด์มาร์คใน กทม. ที่สวยจนต่างชาติยอมรับ ชาวเน็ตปลื้ม…ความเป็นไทย!!
ใหม่กว่า เก่ากว่า