เปิดตำนาน เสือฝ้าย เพราะ ฟ้าลิขิตให้เป็นโจร!! ขุนโจรชื่อดังเมืองสุพรรณ!! ที่ข้าปล้น เพราะ อยากสร้างเสียงหัวเราะให้รัฐ

นายฝ้าย เพ็ชนะ เป็นชื่อเดิมของชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ เขาถูกโจมตีจำพวกเจ็บแสบจากทางตำรวจ โดยมีพี่น้องรายหนึ่งหนุนเนื่องมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไส่ไคล้ฝ้ายให้ถึง กับจนตรอก คราวนั้นฝ้ายถูกตัดสินให้เป็นบุคคลอันตรายต่อชุมชนแล้วก็เมือง ฐานทำไม่ดีรุนแรงในข้อกล่าวหาพาอาชญากรแอบหนี ฝ้ายซึ่งไม่รู้จักอิโหน่อิเหน่ จำเป็นต้องเดินเข้าซังเตอปิ้งไม่สามารถที่จะพูดอุทธรณ์ความบริสุทธิ์ของตนเอง แปดปีกว่ากับการใช้ชีวิตในสถานที่กักคุม หมดสิ้นอิสระด้านกายภาพ เหลือเพียงแค่กำแพงกับซี่กรงสกปรกสนิมเป็นเพื่อนในทุกนาฬิกายาม พอฝ้ายได้ลดอาญาจนถึงหวนกลับบ้านเกิด จากจุดนี้ ฝ้ายลิขิตชีวิตตัวเองใหม่ลงบนหน้ากระดาษ “เมื่อเมืองเล่นตลกกับเรา เราก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน”


นับแต่นั้น “เสือฝ้าย” ก็กลายเป็นชื่อที่หลายคนต่างพากันขยาด แม้กระทั่งทางการยังกริ่งเกรง และไม่สู้จะหาทางลบชื่อนี้ลงได้ง่ายๆ นาม “เสือฝ้าย” ตราอยู่บนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ไพล่ถึงขนาดเป็นหัวข้ออภิปรายในสภาอยู่บ่อยครั้ง


คดีเสือฝ้ายควรจะจบลงแบบโป้งเดียวจอด ทว่า การกำจัดผู้ร้ายรายนี้กลับยากจนทางการต้องปวดเศียรเวียนเกล้าบ่อย ครั้ง อุปสรรคสำคัญมิได้จำกัดอยู่เพียงอาวุธหรือสรรพกำลังของซุ้มโจร กำแพงกีดขวางกลับเป็นชาวบ้านตาดำๆ ทุกคนคอยปกป้องเสือฝ้าย เสมือนฝ้ายคือญาติในครอบครัวก็มิปาน


-ปล้นคนรวย แจกคนจน-


เสือฝ้ายถูกผู้มีอำนาจเล่นงาน ดังนั้น ศัตรูที่ฝ้ายตั้งเป้ากำจัดย่อมหนีไม่พ้นตัวการที่ส่งเขาไปกินข้างแดงในคุก เสียงร่ำลือถึงวิธีการปล้นของฝ้าย เจตจำนงนั้นผิดกับโจรทั่วไป กล่าวคือ ฝ้ายกับพรรคพวกมิได้ชิงทรัพย์เพื่อยังชีพ โดยประทังให้ปัจจัยสี่ไม่ขาดแคลน ฝ้ายจงใจเล่นงานบรรดาเศรษฐี ผู้มีอำนาจในท้องถิ่นนั้นๆ โดยเฉพาะพวกแปดเปื้อนมลทิน กลิ่นคาวฉาวโฉ่ ประเภทฉ้อโกง ขูดรีด และอาศัยอำนาจในการทำให้ตัวเองร่ำรวย นี่คือเป้าหมายของฝ้าย ด้วยเหตุนี้ คนยากหรือผู้ขัดสนทรัพย์สินศฤงคาร จึงรอดพ้นเงื้อมมือเสือฝ้าย หนำซ้ำ ยังจะได้ ‘ทรัพย์’ อันเป็นผลพลอยได้อีกต่างหาก การกระทำของฝ้ายเช่นนี้เอง ชาวบ้านถิ่นสุพรรณต่างพร้อมใจเป็นปราการด่านแรก ยันกับการทำคดีของตำรวจ อาทิ การบิดเบือนข้อมูลหรือให้การเท็จ ตลอดจนความเคลื่อนไหวทุกฝีก้าวของทางการ กลุ่มเสือฝ้ายสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ก็ชาวบ้านอีกนั่นแหล่ะที่นำข่าวมาแพร่งพราย อุปสรรคสำคัญของตำรวจมิได้จำกัดอยู่เพียงอาวุธหรือสรรพกำลังของซุ้มโจร กำแพงกีดขวางกลับเป็นชาวบ้านตาดำๆ ทุกคนคอยปกป้องเสือฝ้าย เสมือนฝ้ายคือญาติในครอบครัวก็มิปาน


พุทธศักราช ๒๔๙๐ ร.ต.อ. ยอดยิ่ง สุวรรณาคร ได้ควบคุมตัวเสื้อฝ้ายที่ท่าเรือตลาดท่าช้างอำเภอเดิมบางนางบวช เพื่อนำตัวไปสวบสวนที่กรุงเทพ เมื่อเรือแล่นผ่านมาถึงบ้านบางตะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เกิดการยิงต่อสู้ ตำรวจได้สังหารเสือฝ้ายจนเสียชีวิต บ้างก็ว่าสมุนเสือฝ้ายตามมาดักชิงตัว บ้างก็ว่าตำรวจตั้งใจสังหาร และทิ้งศพให้ลอยอืดสามวันสามคืน เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่าง สำหรับจุดจบของการเป็นเสือ เสือฝ้ายเสียชีวิต เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๔๙๐ เวลา ด้วยอายุ ๖๐ ปี


ที่มา tnews



เปิดตำนาน เสือฝ้าย เพราะ ฟ้าลิขิตให้เป็นโจร!! ขุนโจรชื่อดังเมืองสุพรรณ!! ที่ข้าปล้น เพราะ อยากสร้างเสียงหัวเราะให้รัฐ
ใหม่กว่า เก่ากว่า