รู้ไว้นะ วิธีแก้ตะคริวเห็นผลเกินคาด ไม่ต้องทรมานอีกต่อไป หายภายใน 1 นาที ประโยชน์มากมายที่ต้องบอกต่อ

หลายคนเคยเป็นตะคริวด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป เมื่อเป็นตะคริว กล้ามเนื้อจะมีการหดตัวและกระชับแน่น ซึ่งเป็นสาเหตุของความเจ็บปวดและไม่สบายตัว อาการนี้จะเกิดขึ้นในเวลาแค่ไม่กี่วินาที คนส่วนใหญ่ที่เคยมีประสบการณ์ ก็มักจะตื่นขึ้นมาก่อน หรือไม่ก็เดินเล่นก่อนที่จะเข้านอน

ตะคริว (Muscle Cramp) คือ การหดเกร็งตัวเป็นก้อนแข็งที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างกะทันหัน ทำให้รู้สึกเจ็บปวด และไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดเมื่อใด โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อน่อง กล้ามเนื้อด้านหลังต้นขา หรือกล้ามเนื้อด้านหน้าต้นขา

อาการของตะคริว

อาการส่วนใหญ่ของตะคริวจะเกิดขึ้นที่ขาโดยเฉพาะที่น่อง นอกจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันแล้ว อาจจะรู้สึกเกร็งกล้ามเนื้อหรือเห็นก้อนแข็ง ๆ เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง

โดยปกติ เมื่อเป็นตะคริวแล้วจะหายไปได้เองและไม่รุนแรงถึงขั้นต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์ อย่างไรก็ตาม หากพบอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

ตะคริวที่ทำให้เกิดอาการรุนแรงมาก

ตะคริวที่ทำให้ขาบวมแดงหรือผิวหนังเปลี่ยนแปลงไป

มีความเกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้ออ่อนแรง เกิดตะคริวขึ้นบ่อย ๆ

ตะคริวที่รักษาด้วยตัวเองแล้วอาการไม่ดีขึ้น

ตะคริวที่ไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่แน่ชัด

สาเหตุของตะคริว

สาเหตุของการเป็นตะคริวยังไม่เป็นที่แน่ชัด โดยมีทั้งตะคริวประเภทที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ทราบสาเหตุและประเภทที่มีสาเหตุร่วมด้วย

ตะคริวประเภทที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ทราบสาเหตุ ถึงแม้ว่าตะคริวชนิดนี้จะไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็มีหลายสมมติฐานที่อาจเป็นสาเหตุ ได้แก่

การทำงานของประสาทที่ผิดปกติระหว่างนอนหลับ ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่มากเกินไป เช่น การออกกำลัง อาจทำให้เกิดตะคริวได้ชั่วคราว การยับยั้งของเลือดอย่างฉับพลันที่ไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อนั้น

นอกจากนั้น เส้นเอ็นที่หดตัวลงในผู้สูงอายุอาจทำให้เกิดตะคริวได้

ซึ่งเส้นเอ็นเหล่านี้จะเชื่อมจากกล้ามเนื้อกับกระดูก

โดยหากเส้นเอ็นหดตัวสั้นลงเกินไปก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อนั้น ๆ เป็นตะคริว

การรักษาตะคริว

โดยปกติ ผู้ที่เป็นตะคริวสามารถรักษาอาการได้ด้วยตัวเอง เช่น การประคบร้อนประคบเย็นเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดบริเวณกล้ามเนื้อที่เจ็บ หดเกร็ง หรือกล้ามเนื้อกระตุก ซึ่งสามารถใช้ผ้าร้อน แผ่นทำความร้อน ผ้าเย็นหรือน้ำแข็งประคบ นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นตะคริวสามารถรักษาได้ด้วยการบริหารร่างกาย ซึ่งมี 2 ประเภท คือ

การบริหารขณะที่เกิดตะคริวเพื่อบรรเทาความเจ็บและหยุดตะคริว คือการยืดเส้นหรือการนวดที่กล้ามเนื้อที่เกิดตะคริว เช่น การเหยียดเท้าไปด้านหน้าและยกเท้าขึ้นแล้วดัดข้อเท้าให้นิ้วเท้าเข้ามาทางหน้าแข้ง และใช้ส้นเท้าเดินไปรอบ ๆ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที การบริหารเพื่อป้องกันการเกิดตะคริว เพื่อลดโอกาสเป็นตะคริว ควรบริหารร่างกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อวันละ 3 ครั้ง เช่น หากมักเป็นตะคริวที่น่อง ให้ยืนห่างจากกำแพง 1 เมตร เอนตัวไปข้างหน้าให้มือแตะโดนกำแพง โดยวางเท้าให้แบนราบไปกะพื้น ทำค้างไว้ประมาณ 5 วินาที ทำไปเรื่อย ๆ ให้ครบ 5 นาที เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุดควรทำให้ได้วันละ 3 ครั้ง

แพทย์สามารถแสดงวิธีบริหารหรือยืดกล้ามเนื้อเพื่อช่วยลดโอกาสในการเกิดตะคริวได้ เช่น หากเกิดตะคริวขึ้นที่น่อง สามารถใช้มือช่วยดึงเท้าให้สูงเพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อน่อง หรือการดื่มน้ำมาก ๆ อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยได้ แต่สำหรับในรายที่มักเกิดตะคริวตอนกลางคืนและรบกวนขณะนอนหลับเป็นประจำ อาจใช้ยาในการบรรเทาอาการ เช่น

ยาแก้ปวด หากมีอาการเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องหลังจากเกิดตะคริว อาจใช้ยาแก้ปวด เช่น

พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อบรรเทาอาการ ยาควินิน (Quinine) เป็นยาที่ใช้ในการรักษามาลาเรีย แต่มีการค้นพบว่าสามารถช่วยลดการเกิดตะคริวได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น หูอื้อ เกิดความบกพร่องทางการได้ยิน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ รบกวนการมองเห็น มึนงง หรือร้อนวูบวาบ

การป้องกันตะคริว

วิธีที่จะช่วยป้องกันการเกิดตะคริวได้ง่ายที่สุด คือหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายจนทำให้เกิดการตึงของกล้ามเนื้อมาก ๆ นอกจากนั้น ยังมีวิธีต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันการเกิดตะคริวได้ ดังนี้

ดื่มน้ำให้มากพอในแต่ละวัน อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ โดยเฉพาะเวลาออกกำลังกาย

จำกัดการดื่มหรือหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยแคลเซียม โปแตสเซียมและแมกนีเซียม (โดยเฉพาะผู้ที่ตั้งครรภ์)

ยืดและเตรียมกล้ามเนื้อก่อนการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายต่าง ๆ

ไม่ควรออกกำลังกายทันทีหลังจากเพิ่งรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ

ลดปริมาณการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น กาแฟและช็อกโกแลต

คลิป


ขอบคุณ ข่าวดัง เฟสบุ๊ค
ที่มา : siamnews

ใหม่กว่า เก่ากว่า