เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 61 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊ก Non Ta Nan ได้โพสต์คลิปทดลองกินลำไยประมาณ 10 ลูก แล้วลองตรวจวัดแอลกอฮอล์ ว่าจะมีประมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเท่าไหร่ ซึ่งพอเห็นผลตรวจทำเอาตกใจหนักมาก เพราะมีระดับแอลกอฮอล์ กว่า 70 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดที่ต้องไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และอีกหนึ่งคลิป ก็ได้ลองกินยาแก้ไอ แล้วตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบว่ามีระดับแอลกอฮอล์มากกว่า 350 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ไม่เชื่อใครง่ายๆแบบนี้ต้องพิสูจน์ ยาแก้ไอปะทะลำใย
เป่าดูก่อน
ไม่มีแอลกอฮอล์ในร่างกาย
กินลำไย 10 กว่าเม็ด
ลองเป่าอีกครั้ง
พุ่งสูงกว่า 68 – 70%
ลองยาแก้ไอ
จะขึ้นขนาดไหน
ลองเป๋าอีกครั้ง
เป่า
ขึ้นไปถึง 357%
ต่อมา ทางด้านของ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยผ่านอัมรินทร์ทีวีว่า ผลไม้จำพวกที่มีรสหวาน ฉ่ำน้ำ เช่น ลำไย ลิ้นจี้ เงาะ และสับปะรด เป็นต้น สามารถทำให้แอลกอฮอล์เกิดขึ้นเพราะตัดออกจากต้นแล้วทำให้ผลไม้มีปฏิกิริยาเปลี่ยนให้มีแอลกอฮอล์ ส่วนยาแก้ไอมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ แต่แอลกอฮอล์จากผลไม้หรือยาแก้ไอ ให้กินน้ำตาม หรือกลั้วปาก 4-5 นาที ก็จะหายไป
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
ชมคลิป
– –
– –
ทั้งลำไยและยาแก้ไอ ถ้ากินเข้าไปก่อนเจอด่านต้องบอกเลยว่าเป่าตรวจแอลกอฮอล์ในร่างกาย โดนจับอย่างแน่นอน วิธีแก้ก็คือการกินน้ำตาม หรือกลั้วปาก รอ 4-5 นาที ถึงเป่าใหม่อีกครั้ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Non Ta Nan, AMARIN TVHD
ที่มาจาก : tkvariety