เรียกว่าเหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเลยสำหรับ “ชีวิตคู่” ที่สักวันต้องเลิกรากันเพราะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนอกใจ และเดินจากไปแบบไม่เหลือเหยื่อใย แต่วันหนึ่งสิ่งที่คิดว่าดีอาจจะกลับมาทำเราได้แบบที่คาดไม่ถึง เหมือนเรื่องราวของ “หญิงคนนี้” ที่ต้องเผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายหลังที่เธอเลือกทิ้ง “สามีเก่า” แล้วมาคบหากับ “ชายคนใหม่” ที่เข้ามาทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตลอด
โดยเรื่องราวของ “หญิงคนนี้” เธอรู้สึกพลาดที่สุดในชีวิตที่เลือกคนที่เข้ามาใหม่และทิ้งสามีที่รักเค้ามาก แต่มันยังไม่จบเท่านั้น เพราะมีวันหนึ่งเธอต้องกลับไปขอความช่วยเหลือจากอดีตสามีในวันที่เค้ากำลังจะแต่งงานกับ “ภรรยาใหม่” และวันนี้เองทำให้เธอรู้สึกผิดอย่างมาก เธอได้เล่าเรื่องไว้ว่า……
” ฉันออกจากบ้านนอกมาทำงานในเมือง ตอนอายุได้ 20 ปี ฉันเป็นพนักงานบริการในโรงแรมแห่งหนึ่ง และได้พบกับอดีตสามีที่ทำงานเป็นพ่อครัวที่นี่ เราอายุใกล้เคียงกันจึงมักชวนไปไหนมาไหนด้วยกัน เขาเป็นคนเริ่มจีบก่อน หลังคบกันได้ไม่นานเราก็แต่งงานกัน “
” ตอนแต่งงานใหม่ ๆ เรายังไม่ค่อยมีเงิน สามีจึงผ่อนบ้านหลังเล็กให้อยู่ แต่ถึงอย่างไรฉันก็มีความสุขมาก หลังจากที่ตั้งครรภ์สามีก็บอกให้ฉันลาออกจากงาน ถึงจะไม่อยากเป็นภาระเขา แต่เขาก็รับปากว่าไม่เป็นไร เพราะเขารับงานพิเศษที่โรงแรมด้วย ถึงแม้จะลำบาก แต่เขาก็ไม่เคยปริปากบ่นเลยสักคำ “
” หลังคลอดลูก สามีก็ดีใจมาก เขาต้องทำงานเพิ่มเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนในอนาคต ลูกสาวก็ว่านอนสอนง่ายดี มีบางครั้งที่รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการเลี้ยงลูกไปบ้าง เพราะสามีเองก็ไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้าน จนวันหนึ่งฉันมีโอกาสได้รู้จักชายคนหนึ่งผ่านแอพหาเพื่อนออนไลน์ เขาชื่อ อาฟง อายุน้อยกว่า 5 ปี มีอาชีพเทรนเนอร์ในยิมฟิตเนสแห่งหนึ่ง รูปร่างหน้าตาของเขาทำให้ฉันหลงใหล จึงได้นัดเจอกัน วันหนึ่งหลังทานอาหารเสร็จ เขาพาฉันไปเปิดห้องในโรงแรม หลังจากนั้นเราก็แอบคบหากันอย่างลับ ๆ โดยที่เขาก็รู้ว่าฉันมีลูกมีครอบครัวแล้ว เวลาผ่านไปจนทำให้ฉันถอนตัวไม่ขึ้น “
” หลังแอบคบกันได้ไม่นาน อาฟงก็ขอให้ฉันหย่ากับสามี ตอนที่ไปขอหย่ากับสามี เขาไม่ได้แสดงอาการตกใจเลย ได้แต่นิ่งเงียบและเซ็นเอกสารหย่าให้ฉัน ฉันรู้ดีว่าเขากำลังเสียใจ ถึงแม้จะไม่ได้พูดออกมาก็ตาม หลังจากนั้นสามีก็เป็นคนรับลูกสาวไปเลี้ยงดู ส่วนฉันเองก็ตัดสินใจสร้างครอบครัวใหม่กับอาฟง ถึงแม้จะรู้สึกผิดต่อลูก แต่ก็หวังว่าจะมีอนาคตที่ดีกว่ากับแฟนคนใหม่ “
“แต่หลังจากหย่ากันได้ครึ่งปี ฉันก็ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม ทำให้แพทย์ต้องตัดเต้านมทั้งสองข้างทิ้งไป อาฟงเองก็งานยุ่งมากจึงไม่ได้มาเยี่ยมฉันที่โรงพยาบาล ที่สำคัญคือฉันไม่มีเงินจ่ายค่าผ่าตัด ทำให้ฉันนึกถึงอดีตสามี แต่ฉันก็ไม่กล้าไปขอยืมเงิน ทันใดนั้นก็ได้รับข้อความจากอดีตสามีว่า “พรุ่งนี้ผมจะแต่งงงานแล้ว ถ้าสะดวกมาร่วมงานได้นะ ลูกสาวบ่นคิดถึงคุณ” ทำให้ฉันรู้สึกน้อยใจที่ชีวิตของฉันแย่กว่าเขามาก ด้วยความเสียใจฉันจึงไปหาเขาที่บ้าน และแอบพาลูกสาวออกมา
วันต่อมาฉันพาลูกสาวไปที่งานแต่งงาน เห็นได้ชัดว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวขอบตาคล้ำมาก คาดว่าตามหาลูกสาวกันทั้งคืน ภรรยาของเขาเดินตรงมาหาฉัน และดึงฉันไปคุยข้างนอกห้องจัดงานเลี้ยง เธอบอกว่า “พวกเธอเพิ่งรู้ว่าฉันกำลังจะผ่าตัดและต้องการใช้เงิน จึงชวนเธอมาที่งานแต่งงาน และตั้งใจช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล จากนั้นเธอก็ยื่นซองจดหมายให้ฉัน ข้างในมีเงินอยู่ 1 แสนหยวน (ราว 5 แสนบาท) ตอนแรกฉันยังคิดว่าเธอล้อเล่นเสียอีก เธอบอกว่าให้ฉันนำเงินไปรักษาตัวเอง “
ฉันอยากขอโทษที่เคยหักหลังสามี ถึงแม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันอีก แต่เขาก็ยังช่วยเหลือฉันอย่างเต็มที่ ทำให้ฉันรู้สึกละอายใจมาก จากนั้นฉันก็เข้าไปนั่งในงานกับลูกสาว และอวยพรในใจขอให้ทั้งสองคนอยู่มีความสุขด้วยกัน เพราะคนที่ดีย่อมคู่ควรกับคนดี ไม่ใช่คนอย่างฉัน…ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่คุณไม่ซื่อสัตย์กับสามีตัวเอง ทำให้คุณต้องมีชีวิตแบบนี้…
ที่มา siamvariety
เจ็บจนจุก!! ฉันพาลูกไปงานแต่งงาน “อดีตสามี” แต่เจ้าสาวกับนำเงินมายัดใส่มือแล้วพูดกับฉันแบบนี้ จำไปจนวันตาย!!