รีวิวแบบละเอียดยิบ ทำเลสิกแก้ไขปัญหาสายตา

    หลายคนคงมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา ยิ่งในปัจจุบันยิ่งมีจำนวนผู้มีปัญหาสายตามากขึ้น เพราะต้องใช้สายตาในการจ้องสมาร์ทโฟน หน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็มีวิธีแก้ปัญหาสายตาอยู่เช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ การทำเลสิก แต่หลายคนก็กังวลเช่นกัน ว่าทำแล้วจะมีผลข้างเคียงหรือไม่ ต้องรักษาตัวอย่างไร

         ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Lookmhee Suwichaya เป็นอีกหนึ่งผู้มีปัญหาสายตา และตัดสินใจทำการเลสิก ซึ่งเธอได้ออกมาเขียนรีวิวเอาไว้แบบละเอียดยิบทุกขั้นตอน จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยจ้า

  รีวิวการทำเลสิค

– โรงพยาบาลปิยะเวท หมอตุลยา

– 37,900 บาท รวมทุกอย่างตั้งแต่เดินเข้า รพ.

– ทำไมถึงทำเลสิก?

เราสายตาสั้นประมาณ 300 เอียงนิดหน่อย ใส่คอนแทคเลนส์มา 10 ปีแล้ว กระจกตาถลอกไป 2 รอบ ติดเชื้อไป 1 รอบ สาเหตุหลักๆ เพราะตาแห้งและคอนแทคเลนส์

คือ ตาแห้งมาก แบบมากๆๆๆ จน 4 ปีหลัง ต้องเลิกคอนแทคสี หันมาใส่คอนแทคเลนส์ใสแบบรายวัน ชนิดที่มีค่าอุ้มน้ำมากที่สุดและแพงที่สุดในท้องตลาด ต้นทุนชีวิตเพิ่มขึ้นอีกวันละ 50 บาท 55555 ก็ใส่สลับไปกับแว่น ใส่แว่นก็จะเจ็บจมูกเพราะขาตั้งแว่นบ้างตามประสาคนไร้ดั้ง ปวดหัวบ้าง อะไรบ้าง ใส่คอนแทคก็เริ่มมีตาแดงเป็นเส้นเลือด ตาเริ่มไม่ใสบ้าง อะไรบ้าง คือ เรื่องเยอออออะะะะะ 5555 …เลยตัดสินใจทำเลสิคปลดล็อคตัวเองด้วยคอนเซปใหม่แห่งปี 2019 New Year New Vision

     – ทำไมถึงเลือกทำที่ปิยะเวท?

ชุมชนพันทิปเค้าบอกว่า รพ.นี้ดี หมอนี้เก่ง ราคาได้ วันเดียวหาย ประกอบกับเพื่อนรอบตัวก็ไปทำที่นี่ผลก็เป็นอย่างที่พันทิปว่า ก็เลยเชื่อสนิทใจ โทรไปจองคิวระบุชื่อหมอ รอไป 3 เดือนจ้าาาาา

 – รีวิวเลสิค

ที่ปิยะเวทเค้ามีระบบแบบนัดตรวจวันเดียวกับทำเลสิคได้เลย คือ ถ้าเช้านั้นหมอตรวจแล้วบอกว่าทำได้ บ่ายก็เข้าห้องผ่าได้เลย ไม่ต้องเสียเวลานัดตรวจที นัดผ่าทีงี้

   สิ่งที่ต้องเตรียม

1.ถอดคอนแทคอย่างน้อย 1 อาทิตย์

2.เงิน 37,900 บาท

3.คนดูแล (รพ.โทรมาย้ำแล้วย้ำอีกว่าอย่ามาคนเดียว เรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า จะทำเลสิคได้ต้องหาคนดูแลให้ได้ก่อนนะเออ)

ถึงวันนัดก็ไปถึงรพ.ตั้งแต่ 08.30 น. เริ่มตรวจสายตา ตรวจความหนากระจกตา ตรวจจอประสาทตา บลาๆๆๆ แล้วก็ไปเจอหมอ หมอก็บอกว่า เราได้ไปต่อ ให้ไปกินข้าว จ่ายตังค์ แล้วมาผ่าตัดตอนบ่ายโมง

ในระหว่างรอก็เจอคนที่มาตรวจแล้วไม่ได้ทำเรื่อยๆ เลยนะ เช่น พวกที่สายตาสั้นเกิน 800 ไปแล้ว มักจะอยู่ในช่วงลูกผีลูกคนว่าจะทำได้หรือไม่ได้ ได้ยินบางเคสที่เค้าบอกว่าเทคโนโลยียังไม่ถึง ให้รอไปก่อน 2-3 ปี หรือไม่ก็ให้ไปทำแบบใส่เลนส์ที่ราคา 2 แสนแทนงี้ บางคนเริ่มมีภาวะสายตายาวแล้วก็โดนแบบทำเลสิคให้ยังเหลือค่าสายตาสั้นอีก 100 กว่าบ้าง มีหลายรูปแบบมาก ต้องลองมาให้หมอประเมิน คือเรากลายเป็นคนโชคดีไปเลย สอบผ่านฉลุยยยยย

ก่อนเข้าห้องผ่าตัด พี่พยาบาลก็มาอธิบายว่า เข้าไปเราจะเจออะไรบ้าง หลักๆ เลย หน้าที่ของเราคือ ต้องจ้องไฟสีเขียว ห้ามล่อกแล่ก ต้องมีสมาธิ นางบอกให้ท่องไว้

“สามหมื่นแปดๆ พรุ่งนี้จะไม่ต้องใส่แว่นๆ” แล้วเราจะมีสมาธิ5555

พร้อมแล้วก็เข้าห้องผ่าตัด เข้าไปถึงเค้าก็จะมาหยอดยาชา (หยอดตาเฉยๆ ไม่มีฉีด) แล้วให้เรานอนปิดตา หยอดเสร็จเค้าก็ไป ปล่อยให้เราเผชิญบรรยากาศความเยือกเย็น กลิ่นห้องผ่าตัด และใจที่เต้นตุบตับๆ ตามลำพัง นอนรอน่าจะ 10-15 นาทีได้มั้ง บอกเลยว่า การนอนรอเฉยๆในวินาทีนั้นโหดไม่แพ้ตอนผ่าตัดเลย5555

พอยาชาออกฤทธิ์ หมอก็มาพร้อมกับวลีเดิม “มองไฟสีเขียวนะคะ” ก่อนลงมือถ่างตา และใช้ใบมีดเปิดฝากระจกตาออก พร้อมกับเสียงทีมงานข้างหลังตะโกนมาว่า “เปิดตา มองไฟสีเขียว อย่าตาลอยนะคะ” แล้วทันใดนั้นจอเราก็ดับวูบบบบบ รู้ซึ้งถึงความรู้สึกของคนตาบอดเลย ดับอยู่ประมาณ 5 วิได้มั้ง แล้วจอก็ติดเหมือนเดิม ที่จริงไอเรื่องจอดับนี่ไม่ได้ตกใจหรอก เพราะเค้าบริฟมาแล้ว ตกใจตรงที่ไฟเขียวหายนี่แหละ ทำตัวไม่ถูกเลย ไม่รู้จะมองตรงไหนดี55555

พอเปิดกระจกตาได้แล้ว หมอก็เริ่มยิงเลเซอร์เย็น และไฟเขียวที่หมอบอกให้จ้องก็จะกลายเป็นไฟแดง…. ก่อนผ่าตัดพี่พยาบาลก็บอกว่าบางช่วงไฟเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีแดงนะ ก็ให้มองไฟไป แต่ไม่นึกว่าจะกลายเป็นไฟแดงตลอดงี้ไง ณ โมเม้นนั้นคือ มีความงง อยากจะถามหมอว่า ที่หนูมองไฟสีแดงอยู่นี่ถูกต้องแล้วใช่มั้ยคะ เดี๋ยวมองผิด ตาบอดอีกทำไงอะ แต่ก็ถามไม่ได้5555 เพิ่งมาเก็ทตอนหลังว่ามันคือไฟเครื่องเลเซอร์ที่กำลังทำงาน ตอนยังไม่ใช้เครื่องไฟก็เขียว พอเครื่องทำงานก็กลายเป็นแดงไง แต่ตอนนั้นคิดไม่ได้นะ สติเสียตั้งแต่ตอนจอดับละ

ระหว่างที่เลเซอร์ก็จะได้ยิงเสียงเลเซอร์เปอะแปะๆ แล้วก็ได้กลิ่นไหม้ รับรู้ทุกอย่างแต่ไม่เจ็บอะไรเลย เสร็จแล้วก็ทำอีกข้าง ใช้เวลาทำทั้งหมดแค่ข้างละประมาณ 29 วินาทีเอง (ถ้าจำไม่ผิดนะ แต่ไม่เกินครึ่งนาทีแน่ๆ)

พอเสร็จ เค้าก็จูงออกจากห้องผ่าตัด คือก็ลืมตาเดินนะ มองเห็นมัวๆ เค้าบอกให้ไปใส่รองเท้า เราก็จะงงๆ หน่อย ตอบสนองช้าๆ หน่อย คาดว่าเกิดจากอาการช็อคไฟเขียวไฟแดงอยู่ สุดท้ายเลยมีพยาบาลมาจูงออกไปเจอคนดูแล แล้วก็ต้องนั่งรอคิวให้หมอดูแผลก่อนกลับบ้าน ระหว่างนั้นเค้าก็จะมาหยอดยาแก้อักเสบ เอายาแก้ปวดมาให้กิน และพูดปลอบใจให้เราหายตกใจ ว่าชีวิตเราจะดีอย่างโน้นอย่างนี้ ต่อไปเราจะไปดำน้ำเห็นปากะรังสวยๆได้ 555555

นั่งรออยู่ 10 นาทีได้มั้ง แสบตามากเว่อร์ ตอนหลังๆ ก็เปิดตาไม่ได้อีกเลย น้ำตาไหลไม่หยุด หาหมอเสร็จ มีรถเข็นมารับไปขึ้นรถกลับบ้าน นั่งหลับตา เช็ดน้ำตา แล้วบ่นๆๆๆ ไปตลอดทาง แดดเมืองไทยก็แรงอะไรเบอร์นี้ เค้าไม่ให้หยีตา เจอแดดเมืองไทยนี่แทบจะทำไม่ได้ สรุปคือก็นั่งหยีตาไปจนถึงคอนโด

พอมาถึงห้องก็รีบกินยานอนหลับตามคำแนะนำ เพราะเค้าบอกว่าเดี๋ยวยาชาหมดฤทธิ์ แล้วจะเคืองตามาก เหมือนมีทรายอยู่ในตา ให้รีบกินยานอนหลับเพื่อหนีprocessนั้น เราก็กินยา นอนหลับไป 4 ชั่วโมง (ยานอนหลับออกฤทธิ์แค่ 4 ชม อย่างเค้าว่าจริงๆ) หลับตอนบ่ายสอง หกโมงก็ตื่นมาตาแป๋วละ เห็นโลกแล้ว แม้ว่าจะยังไม่สดใส แต่ก็เล่นมือถือได้แล้ว ถอดแว่นดูโทรทัศน์ได้เป็นครั้งแรกของโลก ไม่รู้สึกเจ็บเลย ไม่แสบตาแล้ว น้ำตาไม่ไหลแล้ว แต่ก็มีเคืองตานิดหน่อย กินข้าวกินปลา ใช้ชีวิต เที่ยงคืนก็นอนต่อ

ตื่นเช้ามาก็ใส่แว่นกันแดด กลับไปรพ.ให้หมอดูแผลไปวัดสายตา (ไม่ต้องจ่ายเงินค่าหมอ อยู่ในแพคเกจแล้ว) เราก็โชคดีที่แผลผ่าตัดดี และค่าสายตาก็ถูกรีเซ็ตกลับมาเป็นคนปกติอีกครั้ง ฮี่ๆ

การดูแลก็แค่ห้ามแต่งหน้า 1 สัปดาห์ ห้ามน้ำเข้าตาแบบต้องใส่แว่นตาว่ายน้ำอาบน้ำ 1 สัปดาห์ ใส่ที่ครอบตานอน 1 สัปดาห์ หยอดยาแก้อักเสบเช้า เที่ยง เย็น ก่อนนอน หยอดน้ำตาเทียมทุกชั่วโมงครบสัปดาห์ก็กลับไปให้หมอดูอีกครั้ง ถ้าดีก็แต่งหน้าอาบน้ำได้ตามปกติ ผ่าตัดวันเสาร์ วันอาทิตย์ใส่แว่นกันแดดเดินห้าง วันจันทร์ก็ไปทำงานได้ แรกๆ ถ้าอ่านหนังสือใกล้ๆ ก็จะไม่คมชัดเท่าไหร่ อาการเหมือนคนใส่คอนแทคแล้วตกเย็นตาเริ่มแห้งโปรตีนเริ่มเกาะ ประมาณนั้นเลย ให้แผลเริ่มหายพักฟื้นไปเรื่อยๆ 3 เดือนก็จะคมชัด (เค้าว่างั้น)

อาทิตย์แรกหมีตาแห้งมาก น้ำตาเทียมที่เค้าให้มา 1 กล่องหมดตั้งแต่วันที่ 4 บางทีก็แอบคิด นี่หมอหลอกรึป่าว ความจริงคือไม่ได้เลสิคแต่แอบใส่คอนแทคให้งี้ ทำไมรู้สึกอยากกลับบ้านไปถอดคอนแทคเลนส์ออกปานนี้5555 ตอนนี้อาทิตย์ที่ 2 แล้ว ตาแห้งน้อยลง แต่ที่แย่สุดคือ มีความรู้สึกว่า pm 2.5 เข้าตา คือออกไปนอกบ้านแล้วแสบตามากกก นี่กำลังคิดว่า ถ้าอากาศไม่ดีขึ้นจะซื้อแว่นป้องกันสารเคมีมาใส่เดินบนท้องถนนแล้วนะ 55555

 สรุป

คนที่มีปัญหาสายตาแนะนำให้ทำ อย่ารอแก่ เดี๋ยวสายตายาวแล้วจะยุ่ง ยิ่งก่อน 30 ยิ่งต้องรีบทำ ถ้าเปลี่ยนแว่นมากสุดปีละครั้ง แปลว่าสายตาเริ่มนิ่งแล้วไปทำได้

ยอมทรมานแค่ 4 ชั่วโมง แล้วโลกเราจะเปลี่ยนไปตลอดกาล หมอท่านนี้เราก็แนะนำ เพราะเรื่องแบบนี้มันงานฝีมือ หนึ่งวันแผลหายนี่แสดงว่าหมอมีความแม่นยำ เจ๋งจริง แนะนำให้ทำ เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆในการมองเห็นที่แท้ทรู55555

แต่ๆๆๆ อย่าเพิ่งทำช่วงนี้เลย รอให้ pm 2.5 หายไปก่อน ไม่งั้นจะเจอปัญหา ที่เธอเห็นแค่ฝุ่นมันเข้าตา ชั้นไม่ได้ร้องห้ายยย แสบตาจริงอะไรจริงนะเออ

ในรูป จุดแดงๆที่ลูกตาดำฝั่งหัวตาทั้งสองข้างนั้นคือแผลผ่าตัดนะ รูปนี้ถ่ายคืนที่ผ่าตัดหลังจากนอนหนี4ชั่วโมงนรกเลย จุดนี้อยู่กับเราแค่ 3 วันจ้า

    บอกแบบละเอียดทุกขั้นตอนขนาดนี้ ก็คงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังศึกษา หรือกำลังคิดตัดสินใจที่จะทำเลสิก ซึ่งมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนกังวลเลยค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lookmhee Suwichaya

ที่มา : kaijeaw

ใหม่กว่า เก่ากว่า